การดูแลคนที่คุณรักซึ่งเป็นโรคสมองเสื่อม (Dementia) เป็นหนึ่งในความท้าทายที่หนักที่สุดของครอบครัว ยิ่งอาการดำเนินไป ครอบครัวอาจเริ่มตั้งคำถามว่า “ถึงเวลาหรือยังที่จะพิจารณาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ”
ทำไมการตัดสินใจเรื่องเวลาเป็นเรื่องยาก
ไม่มี “เวลาที่เหมาะสมที่สุด” ที่ใช้ได้กับทุกครอบครัว หลายครอบครัวอยากดูแลผู้ป่วยที่บ้านให้นานที่สุด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ระดับการดูแลที่ต้องใช้ก็อาจเกินกว่าที่จะจัดการได้อย่างปลอดภัย หากคุณต้องทำงานหรือดูแลเรื่องอื่น ๆ ผู้ป่วยอาจต้องอยู่ตามลำพัง เสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การเลื่อนการหาศูนย์ดูแลออกไป แม้ด้วยความหวังดี อาจ ส่งผลเสียต่อผู้ป่วยมากกว่าที่คิด ทั้งในด้านร่างกาย เช่น อุบัติเหตุหรือการดูแลไม่เพียงพอ ด้านจิตใจ เช่น ความเหงา ความวิตกกังวล หรือความเครียด และด้านสังคม เช่น การขาดกิจกรรม การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือความรู้สึกโดดเดี่ยว
แม้ว่าการตัดสินใจนี้ไม่ง่าย ความรู้สึกผิดหรือเศร้าใจเป็นเรื่องปกติ แต่การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการให้ความมั่นใจว่าคนที่คุณรักได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีโครงสร้าง และมีผู้เชี่ยวชาญคอยสนับสนุน พร้อมช่วยให้ครอบครัวมีเวลาดูแลและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสมดุล
สัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจถึงเวลาแล้ว
1. ความปลอดภัย
ล้มบ่อยหรือเกิดอุบัติเหตุในบ้าน
ลืมปิดเตาแก๊ส เดินออกจากบ้านโดยไม่รู้ตัว หรือหลงทาง
บ้านไม่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตอีกต่อไป เช่น มีบันไดสูง ขาดสิ่งอำนวยความปลอดภัย
2. ความต้องการดูแลเพิ่มขึ้น
อาการสมองเสื่อมแย่ลงจนเกิดความสับสนหรือเครียดบ่อยครั้ง
ต้องการการดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา
ยากที่จะรักษาความสะอาด การรับประทานอาหาร หรือการทานยาอย่างสม่ำเสมอ
ต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือการดูแลเฉพาะทางที่บ้านไม่สามารถรองรับได้
3. ภาวะเหนื่อยล้าของผู้ดูแล
ผู้ดูแลรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเครียดจากการดูแลเต็มเวลา
การดูแลผู้สูงอายุควบคู่กับสุขภาพ งาน หรือครอบครัว กลายเป็นเรื่องหนักเกินไป
แม้พยายามเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่สามารถให้การดูแลตามที่ผู้ป่วยต้องการได้
4. การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมหรืออารมณ์
มีอาการก้าวร้าว วิตกกังวล หรือพฤติกรรมที่ควบคุมได้ยาก
แยกตัว ไม่อยากเข้าสังคม
ความสามารถในการสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนลดลง
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยมีอะไรบ้าง
แม้ในประเทศไทยจะยังไม่มีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ให้บริการเฉพาะโรคสมองเสื่อม แต่หลายแห่งมี โปรแกรมดูแลผู้สูงอายุที่รองรับผู้ป่วยสมองเสื่อม ซึ่งรวมถึง:
การดูแลและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
สภาพแวดล้อมที่ออกแบบให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเดินหลงหรือเกิดอุบัติเหตุ
กิจวัตรประจำวันและกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วม
การดูแลโดยแพทย์ พยาบาล หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัด
การสนับสนุนด้านอารมณ์และสังคมเพื่อลดความโดดเดี่ยว
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้ป่วยไม่เพียงแค่ปลอดภัย แต่ยังมีโอกาสเชื่อมต่อกับผู้อื่นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ข้อดีของการเข้าศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
สบายใจ: ครอบครัวมั่นใจได้ว่ามีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
การดูแลเฉพาะทางโดยมืออาชีพ: เจ้าหน้าที่มีความรู้ด้านการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม
สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ที่เหมาะสม: บ้านพักมีอุปกรณ์ช่วยเดิน อุปกรณ์กายภาพบำบัด และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย ห้องพักที่เข้าถึงง่าย และพื้นที่ออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่เหมาะกับผู้สูงอายุ
ความสัมพันธ์ทางสังคม: มีกิจกรรมและการเข้าสังคม ลดการอยู่ลำพัง
การแบ่งเบาภาระครอบครัว: ครอบครัวสามารถใช้เวลาคุณภาพร่วมกับผู้ป่วย แทนที่จะหมดแรงไปกับภาระการดูแลทั้งหมด
ใครควรเป็นผู้ตัดสินใจ?
ในอุดมคติ หากผู้ป่วยยังมีความสามารถในการตัดสินใจ ก็ควรให้มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ แต่ในความจริง ภาวะสมองเสื่อมมักทำให้ยาก ครอบครัวจึงมักเป็นผู้ตัดสินใจร่วมกัน โดยมีคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
สิ่งสำคัญคือการตัดสินใจเพื่อ ผลประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย และควรวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้มีเวลาเลือกทางเลือกที่เหมาะสม
Doolaedee.com ช่วยคุณได้อย่างไร
ที่ ดูแลดี.com เรามีพันธกิจจะช่วยครอบครัวในคนไทยเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุอย่างมั่นใจ:
ศูนย์ดูแลผ่านการตรวจสอบ: ทุกแห่งได้รับการรับรองจาก กิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
บริการให้คำปรึกษา ฟรี: ปรึกษากับทีบแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลโดยตรง
คำแนะนำเฉพาะบุคคล: รับรายชื่อศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ตรงกับงบประมาณ ทำเล และระดับการดูแลที่ต้องการ
👉 เริ่มค้นหาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยได้แล้ววันนี้ที่ ดูแลดี.com เพื่อก้าวแรกสู่การดูแลที่เหมาะสมสำหรับคนที่คุณรัก
